“เพอเซ็ปทรา” จับมือ “ศิริราช” ร่วมพัฒนาปัญญาประดิษฐ์เพื่อรังสีวินิจฉัย ยกระดับการแพทย์ไทยสู่เวทีโลก

“เพอเซ็ปทรา” จับมือ “ศิริราช” ร่วมพัฒนาปัญญาประดิษฐ์เพื่อรังสีวินิจฉัย ยกระดับการแพทย์ไทยสู่เวทีโลก

บจก. เพอเซ็ปทรา ขานรับนโยบายระบบการรักษาทางไกล (Tele Medicine) และประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการแพทย์ (Medical hub) ของเอเชีย ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ กับ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมพัฒนาและผลักดันการใช้งานระบบปัญญาประดิษฐ์เพื่อรังสีวินิจฉัยในทุกโรงพยาบาล พร้อมทั้งยกระดับการให้บริการด้านสาธารณสุขทั่วประเทศ

ในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2562 ณ ห้องประชุม 1 ตึกอำนวยการชั้น 3 รพ.ศิริราช โดยมี ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล และ คุณสุพิชญา พู่พิสุทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ คุณชัยวัฒน์ พู่พิสุทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เพอเซ็ปทรา จำกัด เป็นผู้ลงนามบันทึกข้อตกลงการร่วมวิจัยและพัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์เพื่อการแพทย์ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาระบบที่ใช้งานจริง ลดปัญหาการขาดแคลนของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ช่วยให้แพทย์ทำงานได้อย่างรวดเร็ว สะดวก และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น พร้อมด้วย รศ.นพ.พิพัฒน์ เชี่ยววิทย์ หัวหน้าภาควิชารังสีวิทยา รศ.นพ.ตรงธรรม ทองดี รองหัวหน้าภาควิชารังสีวิทยา และ ดร. วราสิณี ฉายแสงมงคล อาจารย์ประจำสถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม (FIBO) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี หัวหน้าทีมวิจัยในโครงการ และคณะผู้บริหารของทั้งสององค์กรร่วมเป็นสักขีพยาน

นางสาวสุพิชญา พู่พิสุทธิ์ ประธานกรรมการบริหารบริษัท เพอเซ็ปทรา จำกัด กล่าวว่า พิธีลงนามในวันนี้นับเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของการนำความเชี่ยวชาญทางการแพทย์มาผนวกกับความเชี่ยวชาญทางเทคโนโลยีในการทำให้สาธารณสุขไทยก้าวหน้ายิ่งขึ้น โดยการที่เริ่มต้นจากภาพเอกซเรย์ทรวงอกนั้นเป็นจุดที่เหมาะสมเพราะมีจุดเจ็บปวด (Pain point) ที่ชัดเจน เนื่องจากโรคที่เกี่ยวกับปอด เช่น โรคมะเร็งปอด วัณโรค ปอดอักเสบ เป็นกลุ่มโรคที่ติดอันดับที่ทำให้คนไทยเสียชีวิตมากที่สุดเกือบทุกปี แต่จำนวนผู้แพทย์เชี่ยวชาญที่ช่วยคัดกรองโรคนั้นยังขาดแคลนทั้งในประเทศไทยและประเทศแถบอาเซียนมาตลอด ดังนั้นเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ร่วมกับความเชี่ยวชาญของกลุ่มแพทย์รังสีที่มีประสบการณ์จะเป็นส่วนสำคัญที่มาช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้อย่างยั่งยืน

ทั้งนี้การพัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์ให้มีประสิทธิภาพที่ดีนั้นต้องอาศัยความเชี่ยวชาญทางการแพทย์ พร้อมทั้งข้อมูลขนาดใหญ่ที่มีคุณภาพมาผนวกกับความเชี่ยวชาญทางเทคโนโลยี บริษัท เพอเซ็ปทรา จำกัด เป็นผู้เชี่ยวชาญในเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) และ บิ๊กดาตา (Big Data) ที่ได้พัฒนาและส่งมอบระบบปัญญาประดิษฐ์ให้แก่บริษัทชั้นนำในประเทศไทยหลายแห่งไม่ว่าจะเป็นตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ธนาคารพาณิชย์ บริษัทเทเลคอม บริษัทค้าปลีกรายใหญ่ และหน่วยงานรัฐบาลหลายหน่วยงานมาไม่ต่ำกว่า 3 ปี ทำให้เพอเซ็ปทราเป็นผู้มีประสบการณ์การนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ และบูรณาการในหลากหลายอุตสาหกรรม ที่ส่งมอบงานให้ในระบบในองค์กรขนาดใหญ่ (Enterprise level) ที่มีความซับซ้อนและ ความปลอดภัยสูงมาโดยตลอด

ในปี 2561 เพอเซ็ปทราได้พัฒนา อินเสป็คทรา ผลิตภัณฑ์ปัญญาประดิษฐ์เพื่อการแพทย์ขึ้นมาจากการทำงานร่วมกันของระบบปัญญาประดิษฐ์หลายระบบ อาทิ การคัดกรองภาพถ่ายที่ใช้งานไม่ได้ (Defective image screening) การแปลงผลรายงานแพทย์ (Medical report analysis) การปรับภาพก่อนการวินิจฉัย (Pre-processing image) และการวินิจฉัย (Diagnosis) ด้วยเทคโนโลยี ปัญญาประดิษฐ์แบบการเรียนรู้เชิงลึก (Deep learning) ที่มีโครงสร้างขนาดใหญ่ถึง 121 ชั้น ขึ้นจากภาพรังสีทรวงอกจำนวนกว่า 500,000 ภาพ ทำให้สามารถคัดกรองโรคจากภาพถ่ายเอกซเรย์ทรวงอกได้ทั้ง 14 สภาวะเสมือนการอ่านผลของแพทย์รังสี ทั้งนี้แพทย์สามารถเข้าถึงการบริการได้ง่าย ๆ ตลอด 24 ชั่วโมงผ่านเว็บแอพลิเคชันที่มีระบบรักษาความปลอดภัยสูงถึง 3 ชั้น ซึ่งระบบดังกล่าวยังได้รับการสนับสนุนโดยสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) (NIA) และดิจิทัล เวนเจอร์ส (Digital Ventures) บริษัทในเครือของ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)

คณะแพทย์ศิริราช มหาวิทยาลัยมหิดล เล็งเห็นถึงความสำคัญของปัญหาและวิสัยทัศน์ดังกล่าว จึงเกิดความร่วมมือเพื่อวิจัยและพัฒนาต่อยอด และนำองค์ความรู้ทางด้านการแพทย์มาพัฒนาให้ก่อเกิดคุณประโยชน์แก่สาธารณสุขของประเทศไทยในวงกว้าง ซึ่งการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อต่อยอดให้ระบบดังกล่าวสามารถนำมาใช้ได้เหมาะสมกับประชากรและระบบสาธารณสุขในประเทศไทยและประเทศแถบอาเซียน อีกทั้งยังมุ่งสร้างองค์ความรู้ แลกเปลี่ยนความรู้ และประสบการณ์ระหว่างบุคคลากรของทั้งสองฝ่ายและพัฒนาต่อยอดเพื่อการอ่านผลภาพทางการแพทย์ และสร้างรายงานทางการแพทย์เพื่อใช้ในการวินิจฉัยความผิดปกติของภาพเอกซเรย์ทรวงอก หรืออาจรวมไปถึงการแพทย์ด้านอื่น ๆ ด้วย

ดังนั้นจากความร่วมมือดังกล่าว ทางบริษัทคาดว่าจะเปิดตัวแอพลิเคชันให้โรงพยาบาลรัฐบาลและโรงพยาบาลเอกชน ที่เป็นโรงพยาบาลประจำจังหวัด โรงพยาบาลชุมชน รวมถึงผู้ให้บริการรถตรวจสุขภาพเคลื่อนที่ใช้ได้ในต้นปี 2563 และมีแนวคิดที่จะขยายความร่วมมือไปสู่การแพทย์ด้านอื่นด้วย เพื่อยกระดับสาธรรณสุขไทยโดยรวมให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในด้านสาธารณสุข และผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub)

Facebook
Twitter
LinkedIn

Related Resources

Meet Boss, our DevOps Engineer whose story didn't start in a traditional software role
Let's explore the principles of responsible AI development and deployment, and discuss the key considerations you need to be aware of before adopting AI solutions in your organization, specifically for the healthcare industry.
Radiologists are at the forefront of the medical AI revolution, and for good reason. This blog dives into the key takeaways from a seminar led by Dr. Kewalin Rangsinaporn, MD, Radiologist and Director of Health Design Center at Bangkok Hospital Headquarters