มะเร็งเต้านมเป็นภัยเงียบที่คร่าชีวิตผู้หญิงไทยเฉลี่ยวันละ 13 คน[1] และน่าเศร้าที่ยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรคนี้ได้ การตรวจคัดกรองด้วยแมมโมแกรมและอัลตราซาวด์อย่างสม่ำเสมอจึงเป็นหนทางเดียวที่ช่วยให้เราพบมะเร็งได้เร็ว และรักษาได้ทันเวลา
ความท้าทายของการตรวจมะเร็งเต้านมในประเทศไทย
เต้านมคนเอเชียมีความซับซ้อนกว่าที่คิด
รู้หรือไม่ว่า ผู้หญิงไทยและเอเชียส่วนใหญ่มีเนื้อเยื่อเต้านมหนาแน่น (Dense breast) มากกว่าผู้หญิงชาติตะวันตก?[2] เต้านมแบบนี้ทำให้การตรวจหามะเร็งยากขึ้น เพราะในภาพแมมโมแกรม ทั้งเนื้อเยื่อปกติและก้อนมะเร็งจะปรากฏเป็นสีขาวคล้ายๆ กัน[4] ทำให้การมองหารอยโรคนั้นเสมือนการหาเมล็ดงาสีขาวบนถาดสีขาว
จากการศึกษาพบกว่าผู้หญิงเอเชียกว่า 70% มีเต้านมประเภท C และ D ตามการจำแนกของสมาคมรังสีวิทยาอเมริกา (ACR)[3] ซึ่งหมายถึงมีเนื้อเยื่อต่อมน้ำนมหนาแน่นปานกลางถึงมาก ซึ่งส่งผลดังนี้
- ความแม่นยำในการตรวจด้วยแมมโมแกรมลดลงเหลือเพียง 30-48% (เทียบกับ 85-90% ในเต้านมที่มีไขมันเป็นส่วนใหญ่)[5]
- มีโอกาสวินิจฉัยพลาดสูงขึ้น ทั้งแบบไม่พบสิ่งผิดปกติทั้งที่มีอยู่จริง หรือพบว่าผิดปกติทั้งที่เป็นเนื้อปกติ[6]
- จำเป็นต้องอาศัยรังสีแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญสูง ซึ่งในประเทศไทยยังมีไม่เพียงพอ[10]
และที่น่ากังวลไปกว่านั้น เต้านมที่หนาแน่นมากยังเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดมะเร็งสูงขึ้น 4-6 เท่าเมื่อเทียบกับเต้านมที่มีไขมันเป็นส่วนใหญ่[7]
ประชากรสูงวัย และคนรุ่นใหม่ที่เป็นมะเร็งง่ายขึ้น
ปัจจุบันประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างรวดเร็ว[8] ทำให้ความต้องการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมเพิ่มขึ้นมาก เพราะความเสี่ยงจะสูงขึ้นตามอายุ ขณะเดียวกัน ข้อมูลทางการแพทย์กลับพบว่าผู้หญิงไทยเริ่มเป็นมะเร็งเต้านมตั้งแต่อายุน้อยลง โดยเฉพาะในช่วง 40-50 ปี[9] เนื่องจากปัจจัยด้านพันธุกรรม สิ่งแวดล้อม และวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป
สถานการณ์เหล่านี้ยิ่งเพิ่มความกดดันให้ระบบสาธารณสุขของเราที่มีรังสีแพทย์จำนวนจำกัด[10] และต้องการเครื่องมือที่ช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น
Inspectra MMG: AI ที่เข้าใจเต้านมคนเอเชีย
ท่ามกลางความท้าทายในการตรวจวินิจฉัยมะเร็งเต้านมที่ประเทศไทยกำลังเผชิญ เทคโนโลยีจึงกลายเป็นตัวช่วยสำคัญในการลดช่องว่างด้านบุคลากรและเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจวินิจฉัย
Inspectra MMG คือระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่พัฒนาขึ้นเพื่อวิเคราะห์ภาพแมมโมแกรมโดยเฉพาะ โดยถูกออกแบบให้เหมาะกับลักษณะเฉพาะของเต้านมคนเอเชียที่มีความหนาแน่นสูง พัฒนาโดย เพอเซ็ปทรา Healthtech สตาร์ทอัพ สัญชาติไทย พร้อมกับความร่วมมือคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล และศูนย์ถันยรักษ์ พัฒนา Inspectra MMG ระบบ AI วิเคราะห์ภาพแมมโมแกรมที่ออกแบบมาเพื่อคนเอเชียโดยเฉพาะ[12]
จุดเด่นของ Inspectra MMG
✅ พัฒนาจากข้อมูลคนเอเชีย: ฝึกฝน AI ด้วยภาพแมมโมแกรมคุณภาพสูงกว่า 400,000 ภาพ โดยกว่า 70% เป็นภาพเต้านมที่มีความหนาแน่นสูงแบบที่พบในคนเอเชีย[14]
✅ ช่วยแพทย์ค้นหาสิ่งที่ตามนุษย์มองเห็นยาก: ตรวจจับความผิดปกติได้ 4 ชนิดสำคัญ:
- ก้อนผิดปกติ (Mass)
- แคลซิฟิเคชั่นที่ผิดปกติ (Suspicious Calcification)
- ความผิดปกติของโครงสร้าง (Architectural Distortion)
- ต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้ผิดปกติ (Axillary Adenopathy)[15]
✅ ใช้งานง่าย ไม่ต้องเปลี่ยนวิธีทำงาน: AI จะวิเคราะห์ภาพแบบเรียลไทม์ โดย:
- ระบุบริเวณที่น่าสงสัยด้วยแผนที่สีหรือเส้นขอบ ทำให้แพทย์เห็นจุดที่ควรให้ความสนใจ
- แสดงค่าความมั่นใจว่าเป็นรอยโรคจริงหรือไม่ ช่วยแพทย์ตัดสินใจ
- ระบุความหนาแน่นของเต้านมอัตโนมัติ (ประเภท A-D)[16]
✅ ทำงานร่วมกับระบบโรงพยาบาลได้ทันที: ระบบสามารถเชื่อมต่อกับระบบ RIS/PACS ของโรงพยาบาลได้อย่างไร้รอยต่อ พร้อมมาตรฐานความปลอดภัยข้อมูลระดับสูงสุด[17]
ผลลัพธ์ที่พิสูจน์แล้ว
จากการทดสอบโดยโรงพยาบาลชั้นนำในประเทศไทย พบว่า Inspectra MMG:
- มีความแม่นยำสูงถึง 97%
- มีความไวในการตรวจจับ (Sensitivity) 97%
- ช่วยให้รังสีแพทย์วินิจฉัยแม่นยำขึ้นถึง 19.3%
- ลดอัตราการวินิจฉัยผิดพลาดลงเฉลี่ย 10%[18]
AI ไม่ได้มาแทนที่แพทย์ แต่มาเสริมพลังให้แพทย์
สิ่งสำคัญที่ต้องเข้าใจคือ Inspectra MMG ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อแทนที่แพทย์ แต่เป็น “ผู้ช่วยอัจฉริยะ” ที่ทำงานคู่กับแพทย์ เพื่อให้การวินิจฉัยรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น[11]
เปรียบเสมือนนักสืบที่มีแว่นตาพิเศษที่ช่วยให้มองเห็นร่องรอยที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น หรือกล้องที่มีเลนส์ซูมช่วยให้เห็นรายละเอียดที่อยู่ไกล AI จะช่วยให้แพทย์มองเห็นความผิดปกติเล็กๆ ได้ง่ายขึ้น ช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยและรักษาได้เร็วขึ้น
ในยุคที่ทรัพยากรทางการแพทย์มีจำกัด แต่ความต้องการเพิ่มขึ้น นวัตกรรม AI เช่น Inspectra MMG จึงเป็นความหวังที่จะช่วยให้ผู้หญิงไทยทุกคนเข้าถึงการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมที่มีคุณภาพสูง เพื่อค้นพบโรคได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น และมีโอกาสรักษาให้หายขาดได้มากขึ้น
อ้างอิง
[1] สถาบันมะเร็งแห่งชาติ, “สถิติโรคมะเร็งในประเทศไทย”, 2024
[2] Bae JM, Kim EH. “Breast Density and Risk of Breast Cancer in Asian Women: A Meta-analysis”, 2023
[3] ACR (American College of Radiology), “Breast Imaging Reporting and Data System (BI-RADS) Atlas 5th Edition”, 2023
[4] Boyd NF, Guo H, Martin LJ, et al. “Mammographic density and the risk and detection of breast cancer”, N Engl J Med. 356(3):227-36, 2022
[5] Checka CM, Chun JE, Schnabel FR, Lee J, Toth H. “The relationship of mammographic density and age: implications for breast cancer screening”, AJR, 2022
[6] Engmann NJ, et al. “Population-Attributable Risk Proportion of Clinical Risk Factors for Breast Cancer”, JAMA Oncol, 2021
[7] Sickles EA, et al. “Performance parameters for screening and diagnostic mammography”, Radiology, 2023
[8] สำนักงานสถิติแห่งชาติ, “รายงานการคาดประมาณประชากรของประเทศไทย พ.ศ. 2563-2583”, 2022
[9] สมาคมมะเร็งวิทยาแห่งประเทศไทย, “แนวทางการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมสำหรับประเทศไทย”, 2024
[10] กระทรวงสาธารณสุข, “แผนยุทธศาสตร์ระบบบริการสุขภาพเฉพาะทาง”, 2023
[11] McKinsey & Company, “Artificial intelligence in healthcare: Transforming the practice of medicine”, 2024
[12] เพอเซ็ปทรา, “Company Profile”, 2025
[13] Website Content – Inspectra MMG, 2025
[14] เพอเซ็ปทรา, “Inspectra MMG Product Full Version”, 2025
[15] [Master File] 2025 01 02 Inspectra Product Full Version.pdf, หน้า 56-58
[16] [Master File] 2025 01 02 Inspectra Product Full Version.pdf, หน้า 60-62
[17] Website Content – Inspectra MMG, “Streamlining Clinical Workflow”, 2025
[18] “Diagnostic performance of Digital mammography (DM) with artificial intelligence computer-aided detection (AI-CAD) for Breast cancer Diagnosis in Siriraj Breast Imaging Center by Perceptra MMG Version 0”, 2025 (อยู่ระหว่างการตีพิมพ์)